วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

น้ำสกัดชีวภาพเพื่อป้องกันและจำกัดศัตรูพืช

น้ำสกัดชีวภาพอย่างเดียวไม่ใช่ยาปราบศัตรูพืช แต่จะให้ความต้านทานแก่พืชเพื่อสู้กับศัตรูพืช โรคและแมลงไม่มารบกวน ถ้าได้ให้อย่างสม่ำเสมอ น้ำสกัดชีวภาพที่ได้จากการหมักผลไม้สมสมุนไพรจะช่วยให้การป้องกันการกำจัดศัตรูพืชได้ยิ่งดียิ่งขึ้น วิธีทำ วิธีทำน้ำสกัดชีวภาพเพื่อป้องกันและรักษาศัตรูพืช ก็เช่นเดียวกับการทำน้ำสกัดชีวภาพที่ได้กล่าวมาแล้ว เพียงแต่ใช้ผลไม้หมักทั้งหมด ผลไม้ใช้ได้ทั้งดิบและสุก หรือเปลือกผลไม้ ถ้าเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ทางยาสมุนไพร เช่น ผลมะม่วงหิมพานต์จะยิ่งดี สมุนไพรที่ต้องการใช้ร่วมกับน้ำสกัดชีวภาพ ได้แก่ ใบสะเดา ตะไคร้หอม ฟ้าทะลายโจร กระเทียม พริกขี้หนู ว่านหางจระเข้ ขิง ข่า และยาสูบ เป็นต้น นำมาทุบหรือตำให้แตก ใส่น้ำให้ท่วม หมักไว้ 1 คืน เพื่อสกัดเอาน้ำสมุนไพร นำไปกรองเอาแต่น้ำ วิธีใช้ ผสมน้ำสกัดชีวภาพกับน้ำสมุนไพรและน้ำในอัตราน้ำสกัด 1 ส่วน น้ำสมุนไพร 1 ส่วน และน้ำ 200-500 ส่วน ฉีดพ่นต้นพืชให้เปียกทั่ว ควรเริ่มใช้หลังต้นพืชเริ่มงอม ก่อนที่โรคและแมลงจะมารบกวน ควรให้ในตอนเช้าหรือหลังฝนตกและให้อย่างสม่ำเสมอ วิธีใช้ในพืช ผสมน้ำสกัดชีวภาพ กับน้ำในอัตรา 1 ส่วนต่อน้ำ 500-1,000 ส่วน รดต้นไม้หรือฉีด พ่นบนใบ เริ่มฉีดพ่นเมื่อพืชเริ่มงอกก่อนที่โรคและแมลงจะรบกวน และควรทำในตอนเช้าหรือ หลังฝนตกหนัก ควรให้อย่างสม่ำเสมอ และในดินต้องมีอินทรียวัตถุอย่างเพียงพอ เช่น ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก หญ้าแห้ง ใบไม้แห้งและฟาง เป็นต้น ใช้ได้กับพืชทุกชนิด รายละเอียดโปรดดูในบดต่อไป น้ำสกัดชีวภาพเจือจางใช้แช่เมล็ดพืชก่อนนำไปเพาะ จะช่วยให้เมล็ดงอกเร็ว ขึ้น และจะ ได้ต้นกล้าที่แข็งกล้าที่แข้งแรงและสมบูรณ์ ประโยชน์ ในน้ำสกัดชีวภาพ ประกอบด้วยสารอินทรีต่าง ๆ หลากหลายชนิด เช่น เอนไซม์ฮอร์โมน และธาตุอาหารต่าง ๆ เอนไซม์บางชนิดจะทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เป็นสารอินทรีย์ เป็นอาหารของจุลินทรีย์เอง และเป็นอาหารของต้นพืช ฮอร์โมนหลายชนิดที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นก็เป็นประโยชน์ต่อพืชถ้าให้น้ำปริมาณเล็กน้อยแต่จะมีโทษถ้าให้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป ฉะนั้นในการใช้น้ำสกัดชีวภาพในพืช จำเป็นต้องให้ในอัตราเจือจางสารอินทรีย์บางชนิดที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นเป็นสารที่เพิ่มความต้านทานให้แก่พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคแมลง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน การใช้สารสกัดธรรมชาติจากพืช สมุนไพรเพื่อการป้องกันกำจัดแมลง ปัจจุบันเกษตรกรมีการใช้สารเคมีอย่างมากมายทำให้ต้องสูญเสียเงินทอง ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ความสมดุลยทางธรรมชาติ กระทบไปถึงความปลอดภัยในชีวิตของเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค การใช้สมุนไพรจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถลดต้นทุนและทำใช้เองได้ ข้อดีของการใช้สมุนไพรในการป้องกันกำจัดแมลง ปลอดภัยพืชสมุนไพรส่วนมากมีฤทธิ์อ่อนไม่เป็นพิษต่อคนและสัตว์เลี้ยง ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างเนื่องจากสลายตัวได้ง่าย โอกาสที่แมลงสร้างความต้านทานน้อยกว่าสารเคมี ออกฤทธิ์กับแมลงในหลายด้านเป็นพิษน้อยต่อศัตรูธรรมชาติ ประหยัด ราคาถูก เนื่องจากสมุนไพรเหล่านี้หาได้ง่ายและสามารถเตรียมได้เอง ทำให้ลดดุลการค้าที่เสียเปรียบต่างประเทศ เป็นพืชเศรษฐกิจ ควรส่งเสริมการปลูกสมุนไพรไว้เพื่อใช้ภายในประเทศและเพื่อการส่งออกอย่างจริงจัง ในรูปสารสกัดจะทำให้ได้ราคาดี สารสกัดจากสมุนไพรมีผลต่อแมลง เป็นสารไล่แมลง ทำให้แมลงกินอาหารน้อยลง ทำให้แมลงเป็นหมัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของหนอน ลดการวางไข่ การฟักไข่ของแมลง เป็นพิษโดยตรงต่อแมลง สมุนไพรที่ออกฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช สมุนไพรที่รสขมฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันแมลง ได้แก่ ฟ้าทลายโจร,บอระเพ็ด, สะเดา,หญ้าใต้ใบ,โทรเทง สมุนไพรที่มีรสฟาดแก้เชื้อราโรคพืช ได้แก่ เปลือกแค,เปลือกมังคุด,เปลือกสีเลือด, ใบฝรั่ง,ใบทับทิม,ขมิ้น สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวไล่แมลงแสบร้อน ได้แก่ เปลือกส้ม มะกรูด มะนาว น้ำส้มสายชู น้ำมะขาม สมุนไพรประเภทเมา เบื่อฆ่าหนอน เพลี้ย แมลงอื่น ๆ ได้แก่ หางไหล ยาสูบ ขอบชะนาง แดง-ขาว หนอนตายหยาก ใบน้อยหน่า สลัดใด พญาไร้ใบ แสก เม็ดมะกล่ำ สมุนไพรหอมระเหยไล่แมลง เปลี่ยนกลิ่นต้นพืช ได้แก่ ตะไคร้หอม โหระพา กระเพรา ผักชี สาบเสือ สาบแร้งสาบกา กระทกรก ผักแพรวแดง ชนิดของสมุนไพรที่ใช้ในการป้องกันศัตรูพืช เครดิต:http://www.baanjomyut.com/library_2/water_extraction_of_biological/01.html

ไม่มีความคิดเห็น:

Translate